วิถีเกษตร "ขวัญใจ แก้วหาวงศ์" ขยายผล "ทฤษฎีใหม่" สู่ชุมชน
แม้จะจบแค่ ป.6 แต่เกษตรกรคนเก่งแห่งภูพานอย่าง "ลุงขวัญใจ แก้วหาวงศ์" วัยใกล้ 60 ปี หัวหน้าศูนย์เกษตรพอเพียงตามแนวพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำห้วยปุ บ้านเหล่านกยูง ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร ก็ไม่เคยย่อท้อในการศึกษาหาความรู้เรื่องราวดีๆ ด้านการเกษตร ภายในศูนย์การศึกษาพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในสวนเกษตรใกล้บ้าน ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 20 ไร่เศษ ที่ปัจจุบันถูกแปลงเป็นสวนเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ ประกอบด้วยพื้นที่นา 14 ไร่ สระน้ำ 2 ไร่ ไม้ผลและกล้วย 2 ไร่ ปลูกพืชผักต่างๆ หลังฤดูทำนา อาทิ แตงกวา ฟักทอง ถั่วฝักยาว 2 ไร่ ปลูกอ้อย 2 ไร่ เลี้ยงกบแม่พันธุ์ 200 ตัว เลี้ยงผึ้งชันโรงและเลี้ยงไก่พื้นเมือง เป็ดเทศและไก่ดำอีก 35 ตัว
"แต่ก่อนพื้นที่ตรงนี้กันดารมาก ไม่มีน้ำ ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น พอดีช่วงนั้นศูนย์ภูพานเขาเปิดอบรมงานด้านการเกษตรก็เลยไปลองดู ก็รู้สึกดีมากๆ มีตัวอย่างให้เห็นชัดเจนเลยนำมาทดลองทำที่บ้าน เริ่มจากการฟื้นฟูดิน นำพืชผักมาปลูก โดยยึดรูปแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ตามพระองค์ท่าน เมื่อสงสัยหรือปัญหาอะไรก็สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ของศูนย์ถ้ามีเวลาก็เข้าไปดูของจริงที่ศูนย์เลย"
ลุงขวัญใจ เผยที่มากว่าจะถึงวันนี้ ปัจจุบันสวนเกษตรแห่งนี้ทำรายได้ให้เจ้าของสวนไม่ต่ำกว่าวันละ 400-500 บาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 25,000-30,000 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและฤดูกาลให้ผลผลิตของพืชผักชนิดนั้นๆ ด้วย โดยเฉพาะอ้อย ขณะนี้ที่ลุงนำมาคั้นเป็นน้ำอ้อยสดตระเวนจำหน่ายไปทั่ว จ.สกลนคร สนนในราคาขวดละ 40 บาท โดยอ้อย 1 ลำจะคั้นได้น้ำ 1 ขวด ทั้งยังจำหน่ายท่อนพันธุ์อ้อยให้เกษตรกรที่สนใจอีกด้วย
นับเป็นเกษตรกรต้นแบบแห่งภูพานในการนำความรู้แนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่จากศูนย์ภูพานมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในผืนที่ทำกินของตัวเอง จนวันนี้สวนเกษตรของลุงขวัญใจได้กลายเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อให้คนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาศึกษาเรียนรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในที่ดินทำกินของตัวเองต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น